“รมว.เฮ้ง” แจงเงื่อนไข ใครมีสิทธิกู้เงินกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน รับดอกเบี้ย 0%

รมว.แรงงาน แจงคุณสมบัติผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน พร้อมรับดอกเบี้ย 0% ในงวดที่ 1-12 หลังมีผู้สนใจและสอบถามหลักเกณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีการดำเนินการร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน มีสถานประกอบการที่สามารถติดต่อได้ ซึ่งมีได้ทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.แรงงาน และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเปราะบางที่ต้องการทำงาน มีรายได้ และยังมีศักยภาพ แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยกำชับกระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ทั่วถึงเพื่อให้สามารถก้าวต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 กรมการจัดหางานได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืมจำนวน 5,000,000 บาท โดยให้ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับงาน/กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน จากร้อยละ 3 ต่อปี ลดเหลือร้อยละ 0 ต่อปี งวดที่ 1-12 โดยสามารถยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2565 ณ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้านของกรมการจัดหางานพร้อมให้บริการแก่ผู้จ้างงานที่ต้องการจะส่งงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน ประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะรับงานไปทำที่บ้าน และผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้กู้เงินและการชำระหนี้เงินกู้ ดังนี้

กรณีบุคคล วงเงินกู้ 1 – 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี มีคุณสมบัติดังนี้

1.ต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน

2.มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน

3.มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท

4.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

5.ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

กรณีกลุ่มบุคคล วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี วงเงินกู้ 50,001 – 100,000 บาท ชำระคืนภายใน 4 ปี และวงเงินกู้ 100,001 – 300,000 บาท ชำระคืนภายใน 5 ปี โดยมีคุณสมบัติดังนี้

1.เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียน (กลุ่มบุคคล) กับกรมการจัดหางาน

2.ต้องมีสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน

3.มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน

4.มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท

5.ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

สำหรับเอกสารประกอบการกู้เงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน

1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน หรือบัตรประจำตัวอื่นที่หน่วยงานของรัฐออกให้

2.สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน

3.โครงการที่ขอกู้ และรายละเอียดการประกอบกิจการของกลุ่มผู้รับงานฯ

4.แผนผังที่อยู่อาศัยของผู้กู้และที่ตั้งของสถานที่ทำงานของกลุ่มผู้รับงานฯ

5.สำเนาหลักฐานการจดทะเบียนกลุ่มผู้รับงานฯ

6.หนังสือยินยอมของคู่สมรสของผู้กู้ละผู้ค้ำประกัน

โดยผู้ที่สนใจกู้ยืมเงินกองทุนฯ สามารถตรวจสอบคุณสมบัติและยื่นคำขอกู้เงินได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน ภายใน 31 สิงหาคม 2565 และทำสัญญากู้ยืมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694

อ้างอิง
https://siamrath.co.th/economy

รมว.แรงงาน แจงคุณสมบัติผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน พร้อมรับดอกเบี้ย 0% ในงวดที่ 1-12 หลังมีผู้สนใจและสอบถามหลักเกณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีการดำเนินการร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน มีสถานประกอบการที่สามารถติดต่อได้ ซึ่งมีได้ทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.แรงงาน และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเปราะบางที่ต้องการทำงาน มีรายได้ และยังมีศักยภาพ แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยกำชับกระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ทั่วถึงเพื่อให้สามารถก้าวต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 กรมการจัดหางานได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืมจำนวน 5,000,000 บาท โดยให้ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับงาน/กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน จากร้อยละ 3 ต่อปี ลดเหลือร้อยละ 0 ต่อปี งวดที่ 1-12 โดยสามารถยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 สิงหาคม…