เงินเฟ้อพุ่ง 3.2% ธปท.ปรับคาดการณ์จีดีพีใหม่ เดือน มี.ค.2565
- by admin
ธปท.เตรียมปรับกรอบประมาณการอัตราเงินเฟ้อ-จีดีพีปี 2565 หลังตัวเลขงินเฟ้อเดือน ม.ค.สูง 3.2% ตามราคาพลังงาน-อาหารสดพุ่ง ยันทั้งปียังอยู่ในกรอบ 1-3% ถือเป็นระดับเหมาะสม จับตา 3 ความเสี่ยงหนุนเงินเฟ้อพุ่ง “ราคาพลังงานและอาหารสด-การส่งผ่านต้นทุน-ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์”
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อถือเป็นประเด็นที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้ความสำคัญ โดยปัจจุบันมีความเสี่ยงขาสูงขึ้น โดยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ณ เดือนมกราคม 2565 มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.2% ซึ่งขับเคลื่อนหลักมาจากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 27% ส่วนอาหารสดมีการปรับเล็กน้อยอยู่ที่ 22%
สุรัช แทนบุญ
สุรัช แทนบุญ
ทั้งนี้ หากดูพลวัตรของอัตราเงินเฟ้อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะถูกขับเคลื่อนจากราคาพลังงาน โดยจะเห็นว่าในปี 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงอยู่ที่ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ในปี 2564 ราคาน้ำมับดิบดูไบเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
และหากดูความเสี่ยงระยะข้างหน้าของเงินเฟ้อ จะมาจาก 3 ส่วนด้วยกันที่ต้องติดตาม คือ 1.ราคาพลังงาน และอาหารสด 2.การส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้น กรณีราคาพลังงานปรับสูงขึ้นจนไปสู่ค่าขนส่ง หรือราคาเนื้อสุกรและโคส่งผ่านไปยังราคาข้าวกล่อง อาจจะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นได้ และ 3.ปัญหา Supply Disruption การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ตู้คอนแทนเนอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่ต้องจับตาใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี ภาพประมาณการในระยะข้างหน้า โดยตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ปี 2565 ที่มีการเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ประเมินอัตราเงินเฟ้อในปี 2565 อยู่ที่ 1.7% และในปี 2566 อยู่ที่ 1.4% ซึ่งภายหลังจากการเผยแพร่พบว่าราคาพลังงานและเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และทยอยลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี
ดังนั้น ธปท.จะมีการทบทวนตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ 1.7% ใหม่ในรอบการประชุมเดือนมีนาคมนี้ หลังจากสัญญาณเงินเฟ้อเดือนมกราคมอยู่ที่ 3.2% แต่ทั้งปียังอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% เนื่องจากมองว่ากรอบเป้าหมาย 1-3% เป็นระดับที่เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป และเป็นอัตราที่ภาคธุรกิจสามารถวางแผนธุรกิจได้ นอกจากนี้ ธปท.จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจในปี 2565 โดยจะมีการปรับอัตราการเติบโตตัวเลขภาคการส่งออกเป็นสำคัญ
“ธปท.จะติดตามภาวะและแนวโน้มเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการประเมินการเพิ่มขึ้นของราคายังไม่เป็นวงกว้าง แม้จะเร่งขึ้นในช่วงแรก แต่ครึ่งหลังมีแนวโน้มลดลง ทำให้ตัวเลขทั้งปียังอยู่ในกรอบ 1-3% และจะเห็นว่าภาครัฐยังคงดูแลเรื่องของราคาน้ำมันในช่วงไตรมาส 1 และคาดว่าไตรมาสที่ 2 ราคาน้ำมันน่าจะลดลง ทำให้กองทุนน้ำมันดูแลจะลดลงด้วย แต่สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน เชื่อว่ากองทุนน้ำมันยังมี Capacity ด้านเงินทุน 3 หมื่นล้านบาท”
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance/
ธปท.เตรียมปรับกรอบประมาณการอัตราเงินเฟ้อ-จีดีพีปี 2565 หลังตัวเลขงินเฟ้อเดือน ม.ค.สูง 3.2% ตามราคาพลังงาน-อาหารสดพุ่ง ยันทั้งปียังอยู่ในกรอบ 1-3% ถือเป็นระดับเหมาะสม จับตา 3 ความเสี่ยงหนุนเงินเฟ้อพุ่ง “ราคาพลังงานและอาหารสด-การส่งผ่านต้นทุน-ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์” วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อถือเป็นประเด็นที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้ความสำคัญ โดยปัจจุบันมีความเสี่ยงขาสูงขึ้น โดยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ณ เดือนมกราคม 2565 มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.2% ซึ่งขับเคลื่อนหลักมาจากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 27% ส่วนอาหารสดมีการปรับเล็กน้อยอยู่ที่ 22% สุรัช แทนบุญ สุรัช แทนบุญ ทั้งนี้ หากดูพลวัตรของอัตราเงินเฟ้อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะถูกขับเคลื่อนจากราคาพลังงาน โดยจะเห็นว่าในปี 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงอยู่ที่ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ในปี 2564 ราคาน้ำมับดิบดูไบเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 70…
Recent Posts
- เว็บหวยจ่ายสูง 1200 จ่ายเต็มทุกเลข ไม่มีเลขอั้น ฝาก-ถอนไว 3 นาที
- หุ้นพักฐานกังวลเฟดขึ้น ดบ.คาดกลุ่มแบงก์-Fund Flow หนุน
- สงสัยตลาดวาย! CoinShares ชี้วอลุ่มเทรด crypto ร่วงต่ำสุดในรอบ 2 ปี
- ธอส.โชว์ไตรมาสแรกปี 65 ปล่อยสินเชื่อใหม่ให้คนไทยมีบ้านได้ 62,408 ล้านบาท โต 33.21%
- “รมว.เฮ้ง” แจงเงื่อนไข ใครมีสิทธิกู้เงินกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน รับดอกเบี้ย 0%